ออกล่ากลุ่ม ไอเอส ทรัมป์ไฟเขียวให้ตุรกีบุกโจมตีทางภาคเหนือของซีเรีย

Trumppicc

เชื่อว่าหลายคนที่ยังคงติดตามข่าวสารอยู่บ้าง น่าจะต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของกลุ่มไอเอสมานานแล้ว แต่คงไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจว่ากลุ่มไอเอสคือใคร และมีความสำคัญอย่างไร รู้เพียงคร่าวๆ ว่าเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่โด่งดังไปทั่วโลกเท่านั้น เราจึงจะมาทำความรู้จักกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้กันก่อน

ไอเอส กลุ่มก่อการร้ายที่ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องใช้ความรุนแรง

  ภาพติดตาที่คนกลุ่มนี้ปฏิบัติกับเป้าหมายเป็นประจำก็คือ การฆ่าตัดหัว ยิ่งพอมีสื่อโซเชียลก็ยิ่งสร้างความสะพรึงให้กับคนทั่วโลกได้ไม่ยาก อย่างที่เราเคยเห็นว่ามีการโชว์ฆ่าตัดหัวผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย นี่คือกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อปลุกระดมคนที่มีความเป็นนักรบจากทั่วโลก ให้มาเปลี่ยนศาสนาพร้อมกับปฏิบัติภารกิจลับตามความเชื่อของพวกเชา โดยที่ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าต้นกำเนิดของภารกิจแต่ละครั้งมาจากใคร หรือผลลัพธ์สุดท้ายที่คนกลุ่มนี้ต้องการเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาสามารถรวบรวมกำลังพลผ่านช่องทางออนไลน์ได้จำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ยังเลือดร้อนและหลงผิดได้ง่าย การปลูกฝังความเชื่อของการเป็นฮีโร่และการผดุงคุณธรรมถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือหลัก ที่ทำให้ทุกคนทำงานให้อย่างเต็มใจ

จุดเริ่มต้นเกิดจากการรวมตัวของเหล่านักรบตั้งแต่สมัยสงครามอิรักปี 2546 ซึ่งตอนนั้นถือเป็นกองกำลังที่มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมาก ทุกคนทีทักษะในการต่อสู้มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ แต่ไม่นานกลุ่มก็แตกกลายเป็นกลุ่มย่อยๆ กระจายกันไป สุดท้ายก็มีกลุ่มไอเอสนี่เองที่สร้างวีรกรรมได้อย่างโหดเหี้ยมที่สุด ที่น่าสนใจก็คือพวกเขาไม่ได้มีภารกิจฆ่าเป้าหมายไปเรื่อยๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ค้าน้ำมันที่รวยที่สุดในโลกอีกด้วย ทำให้กลุ่มมีเงินสนับสนุนตลอดเวลา จึงตามจับได้ยากมาก

จากสงครามมาสู่การไล่ล่ากลุ่มไอเอส

หลังจากที่มีการประกาศยุติสงครามระหว่างตุรกีกับซีเรียแล้ว แม้ว่าจะยังไม่มีการดำเนินการอะไรที่แสดงออกชัดเจนว่าสงครามจบลงแล้วจริงๆ แต่ก็ได้เห็นการร่วมมือกันของทั้ง 2 ประเทศ รวมไปถึงสหรัฐเองด้วย ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีตุรกิี เรเซป ไดยิป แอร์ดวน อย่างเป็นทางการว่า ตนเองได้เปิดไฟเขียวให้ทางตุรกิีได้บุกขึ้นทางตอนเหนือของซีเรียอย่างเต็มที่ตามแผนการปฏิบัติการในระยะยาวเพื่อจัดการกับกลุ่มไอเอส แต่มีข้อแม้ว่าทางกองทัพสหรัฐจะไม่ขอเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติการครั้งนี้

เดิมทีที่มีกองกำลังทางทหารของสหรัฐปักหลักอยู่ในซีเรียมากกว่า 1000 นาย ซึ่งมีเป้าหมายว่าจะคอยดูแลจัดการกับกลุ่มไอเอสที่อาจลอบก่อการร้ายในเขตชุมชนซึ่งจะมีผู้คนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก แต่เมื่อตุรกีจะเริ่มแผนการเข้าสู่ตอนเหนือของซีเรีย กองทัพสหรัฐก็จะเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นการรับรู้สนับสนุนในทุกกรณี ถ้าการปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จได้ จะเสร็จสิ้นทั้งหมดหรือแค่บางส่วนก็ตาม ทั้งสหรัฐ ฝั่งยุโรปก็จะไม่เข้ามาช่วยสานต่อหลังจากนั้นด้วย นักรบจากกลุ่มไอเอสที่ควบคุมตัวมาได้ทั้งหมด ทางตุรกีจะต้องรับผิดชอบเอาไปดูแลกันเอง การตัดสินใจของสหรัฐในลักษณะนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของงบประมาณในประเทศ และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องความปลอดภัยความมั่นคงของคนในประเทศนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถคาดหวังได้เต็มที่ว่ากลุ่มไอเอสจะถูกจับกุมได้สำเร็จ เพราะพวกเขาสามารถหลีกหนีการจับกุมมาได้เป็นหลายสิบปี ไม่ว่าจะต่อกรด้วยยุทธวิธีใดก็ไม่อาจโค่นล้มเครือข่ายไอเอสที่ไม่รู้จำนวนแน่นอนได้เลย ทันทีที่มีคนหนึ่งถูกโค่นลงก็เหมือนกับมีคนอีกมหาศาลผุดขึ้นมาใหม่